วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ชุมชนริมควน

ยินดีต้อนรับสู่ชุมชนริมควน










แผนที่ชุมชน

ชาวชุมชนริมควนขอเสนอ วิธีการ



การทำเทียนเจล เทียนเจลแฟนซี "เทียนเจล" หมายถึง ผลิตภัณฑ์ที่ได้จากการนำเจลสังเคราะห์มาผ่านความร้อนให้หลอมละลายเป็นของเหลวใส อาจเติมสี น้ำมันหอมระเหย แล้วตักใส่ในภาชนะรูปทรงตามต้องการ เช่น แก้วใส เซรามิก ดินเผา อาจตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม เช่น เปลือกหอย ปลาเรซิน ทรายสี กิ่งไม้แห้ง มีไส้เทียนสำหรับจุดไฟ ทำเป็นของประดับตกแต่งและของที่ระลึก
วัตถุดิบประกอบด้วย
  • เทียนเจล เกรดเอ เนื้อใสบริสุทธิ์ ( ลักษณะเหมือนเยลลี่ห้ามรับประทาน )
  • ไส้เทียนแบบมีเส้นลวดอยู่ภายใน ทำจากเส้นด้ายฝ้าย 100 %
  • สี ( ต้องเป็นสีสำหรับทำเทียนที่ละลายในน้ำมันได้เท่านั้น )
  • น้ำหอม ( เชื้อน้ำมัน 100% )
  • พาราฟิน

วัสดุอุปกรณ์
  • ภาชนะสำหรับต้มเพื่อให้เจลหลอมเหลว เช่น หม้อ หรือ กะทะแบบมีด้ามจับ ฯลฯ
  • เตา เป็นเตาปิกนิคก็ได้ หรือเตาไฟฟ้าจะดีกว่าเพราะสามารถคุมอุณหภูมิได้
  • แก้วใสแบบสวยๆหรือแบบแปลกๆ จานรองแก้ว ชามแก้วแล้วแต่ว่าจะทำให้เหมือนอะไร เช่น จะทำเครื่องดื่มก็ใช้แก้วใสธรรมดา ถ้าจะทำไอศครีมก็เลือกใช้แก้วใส่ไอศครีมจะมีลักษณะเป็นแก้วหนาวงรี เป็นต้น
  • สารภี ช้อน ส้อม
  • มีด ใช้ตกแต่งผิวงานให้เรียบร้อย
  • กรรไกร
  • พิมพ์ขนมแบบต่างๆ
  • (อุปกรณ์ตกแต่ง แล้วแต่จะสรรหาตามสไตล์ของคุณ แต่ควรเป็นของที่ไม่ติดไฟ )

    วิธีทำโดยย่อ
  • ล้างแก้วที่ต้องการทำชิ้นงานให้สะอาด เช็ดให้แห้งสนิท
  • ติดไส้เทียนกับแก้วโดยกาว รอสักพักให้กาวแห้ ง
  • จัดแต่งสิ่งของที่ต้องการตกแต่งภายในแก้ว ตามแบบที่คุณต้องการ
  • นำเจลมาต้มในภาชนะที่เตรียมไว้ โดยใช้ไฟอ่อน รอจนเนื้อเจล หลอมละลายจนเหลว เบาไฟให้อ่อนที่สุด
    หาก ต้องหากต้องการเพิ่มสีสันให้กับเจล นำสีที่ต้องการใส่ผสมลงในเนื้อเจล ( ควรสกิดผงสีใส่ไปทีละน้อยๆ มิฉะนั้นสีจะเข้มมาก )
  • ใช้ทัพพีหรือช้อนโคนให้ทั่ว แล้วปิดไฟเตา
  • จากนั้นนำน้ำหอมที่ต้องการใส่ลงในเนื้อเจล แล้วโคนให้ทั่ว ( ไม่ควรใส่น้ำหอมเกินกว่า 3% เพราะน้ำหอมมี คุณสมบัติติดไฟ ถ้าใส่มากเกินไฟอาจลุกบนเนื้อเจลได้ )
  • เทเนื้อเจลที่เหลวลงในแก้วหรือภาชนะที่ได้จัดเตรียมไว้อย่างระมัดระวัง
  • หากต้องการใส่สิ่งของแต่งเพิ่มรอประมาณ 2-5 นาที ไม่ควรใช้วัสดุที่ติดไฟได้ใส่ลงไป
  • รอให้เนื้อเทียนเจลเย็นตัวลง เป็นอันเรียบร้อย
    วิธีทำเทียนเจลรูปเบียร์เย็นๆมีฟอง
    1 เตรียมแก้วเบียร์ใส 1 ใบ แบบไหนก็ได้ที่คอเบียร์ชอบละครับ ปกติก็จะเป็นแบบมีหูจับ ทำความสะอาดรอไว้
    2 นำเจลใส่หม้อหรือกาละมังขึ้นตั้งไฟให้ละลาย ให้ใช้ไฟอ่อน
    3 เมื่อละลายแล้วนำสีเหลืองค่อยๆเติมลงไปพร้อมกับคนให้ทั่ว ดูสีให้เหมือนกับสีของเบียร์จริงๆ
    4 จากนั้นนี้ก็เติมน้ำหอมกลิ่นที่ชอบลงไป ให้ใส่แต่ทีละน้อยๆอย่าใส่มากเพราะถ้ามากไปเจลจะขุ่น
    5 เมื่อเจลเย็นตัวลงจะเริ่มหนืดใช้ส้อมคนเจลให้ฟองอากาศขึ้นให้ดูเหมือนมีฟองอากาศอยู่ภายในแก้วเบีย
    6 ทำฟองเบียร์ขาวๆโดยนำพาราฟินมาตั้งไฟให้ละลาย พอเริ่มแข็งตัวใช้ช้อนหรือส้อมก็ได้ขูดให้เป็นฟอง เสร็จแล้วตักใส่แก้วเบียร์
    7 จากนั้นก็นำไม้ปลายแหลมเช่นไม้เสียบลูกชิ้น ไม้จิ้มฟัน หรือเหล็กแหลมเสียบลงไปให้เป็นรู นำไส้เทียนสอดเข้าไป
    เทียนเจลรูปเบียร์เย็นๆมีฟองเสร็จแล้ว
  • ชาวชุมชนริมควนขอเสนอ 

    การผลิตเจลว่านหางจระเข้ ปริมาตร 200 มิลลิลิตร

    ขั้นตอนการเตรียมน้ำว่านหางจระเข้
    1. ปอกเปลือกว่านหางจระเข้ออก เอาแต่วุ้นใสมา 50 กรัม ใส่น้ำกลั่น 100 มิลลิลิตร
    2. นำไปปั่นให้ละเอียดด้วยเครื่องปั่น
    3. กรองด้วยผ้าขาวบาง
    4. นำน้ำว่านหางจระเข้มา 100 มิลลิลิตร เพื่อใช้ในขั้นตอนต่อไป
    ขั้นตอนการเตรียมเจลว่านหางจระเข้
    1. ชั่ง carbopol 1 กรัม ใส่ลงในน้ำเดือด 100 มิลลิลิตร คนจนได้สารละลายใสทิ้งไว้ให้อุ่น
    2. นำน้ำว่านหางจระเข้ 100 มิลลิลิตร มาผสมกวนให้เข้ากัน
    3. เติม germaben II-E 1 มิลลิลิตร
    4. เติมน้ำมันหอมระเหย 5 หยด กวนให้เข้ากัน
    5. ค่อยๆ หยด Triethanolamine (ประมาณ 8 – 9 หยด) กวนให้เข้ากันเพื่อปรับค่าพีเอชให้ได้ 5 – 6
    6. บรรจุใส่หลอด
    ประโยชน์ของว่านหางจระเข้
    1. แก้ปวดศีรษะ นำว่านหางจระเข้ตัดให้เป็นแว่นบางๆ แล้วปิดที่ขมับ จะทำให้เย็น หายปวด
    2. แผลไฟไหม น้ำร้อนลวก ใช้น้ำเมือกจากว่านหางจระเข้รักษาแผลไฟลวก โดยทาน้ำเมือกที่แผลให้เปียกอยู่เสมอ อาการปวดแผลหรือการเกิดแผลเป็นจะมีน้อยมากหรือไม่มีเลย
    3. ผิวไหม้เพราะถูกแดดเผา ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาบ่อยๆช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อน
    4. แผลจากของมีคมและแผลอื่นๆ ทำความสะอาดแผลเสียก่อนแล้วเอาวุ้นปิดลงที่แผลให้สนิทเอาผ้าปิดไว้
    5. กระเพาะลำไส้อักเสบ รับประทานว่านหางจระเข้ 1- 2 ช้อนโต๊ะ วันละหลายๆ ครั้ง ใช้ได้ผลในรายที่ลำไส้ใหญ่อักเสบ หรืออวัยวะอื่นๆ ในทางเดินอาหารเกิดการอักเสบ
    6. บำรุงผมและหนังศีรษะ ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ชโลมผมให้ทั่วทิ้งไว้ให้แห้ง รุ่งเช้าจึงใช้น้ำล้างออกทำให้ผมดกดำเป็นเงางาม และรักษาแผลบนหนังศีรษะ (ก่อนใช้ควรทดลองก่อนว่าแพ้ว่าน หรือไม่และควรใช้แต่น้อยดูก่อน ที่สำคัญอย่าให้ยางถูกผมเพราะยางจะกัดหนังหัว)
    7. ป้องกันการติดเชื้อ ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทาแผลรักษาแผลติดเชื้อได้ ทำให้แผลดีขึ้น
    8. ผื่นคันที่เกิดจากการแพ้สารต่างๆ เนื่องจากวุ้นว่านหางจระเข้จะมีฤทธิ์ระงับปวด จึงช่วย ลดอาการคันด้วย และยังช่วยให้ผื่นคันหายเร็ว
    9. ขี้เรื้อนกวางและผื่นปวดแสบปวดร้อน ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ กินวันละ 1- 2 ครั้งๆ ละ 1-2 ช้อนโต๊ะ และทาควบคู่กันไปว่านหางจระเข้เป็นยาฝาดสมาน อาจทำให้ ผิวแห้งได้ จึงควรผสมน้ำมันทาผิวหรือน้ำมันอย่างอื่นควบคู่ไปด้วย
    10. ลบลอยแผลเป็น ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทา เช้า – เย็น จะลดรอยแผลเป็น
    11. ลบท้องลายหลังคลอด ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาผิวท้องขณะตั้งครรภ์ แม้หลังคลอดแล้วก็ควรใช้ทาต่อ เพื่อช่วยให้ผิวหน้าท้องกลับคืนสู่สภาพปกติ
    12. เส้นเลือดดำขอดที่ขา ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทาที่บริเวณเส้นเลือดดำขอด
    13. มะเร็งที่ผิวหนัง ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ ทาวันละ 2 – 4 ครั้งเป็นเวลาหลายเดือน
    14. แผลครูดและแผลถลอก ใช้วุ้นว่านหางจระเข้ทาเบาๆ ให้ทั่วใน 24 ชั่วโมงแรก ทาบ่อยๆแผลจะไม่ค่อยเจ็บ และหายเร็วมาก
    15. โรคปวดตามข้อ รับประทานวุ้นว่านหางจระเข้เป็นประจำจะหายปวดได้


    ชาวชุมชนริมควนขอเสนอ วิธีทำเจลล้างมือ เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่


    วิธีทำเจลล้างมือ เจลอนามัย หรือเจลแอลกอฮอล์ 65% มีดังต่อไปนี้ครับ
    • (1). ผสม (blend) ว่านหางจระเข้ (aloe vera) กับแอลกอฮอล์ (isopropyl alcohol) ซึ่งควรเป็นชนิด 95% ตามสัดส่วนปริมาตร (น้ำหนักของแอลกอฮอล์เบากว่าน้ำ ทำให้มีสัดส่วนน้ำหนักแอลกอฮอล์ต่อน้ำประมาณ 91%) คนให้เข้ากัน
    • ถ้าเป็นแอลกอฮอล์ 70% จะมีสัดส่วนน้ำมาก ผสมกันแล้วจะเหลว ความเข้มข้นแอลกอฮอล์ต่ำลง ซึ่งยิ่งต่ำยิ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อลดลง
    • (2). เติมน้ำมันหอมระเหย (essential oil) เช่น น้ำมันทีทรี (tea tree oil) ลาเวนเดอร์ ฯลฯ 8-10 หยด เพื่อให้มีกลิ่นหอม (ถ้าต้องการ) คนให้เข้ากัน
    • (3). เติมส่วนผสมในภาชนะที่ปิดสนิท (seal) > อย่าเปิดฝาทิ้งไว้ เพราะแอลกอฮอล์ระเหยง่ายกว่าน้ำ จะทำให้ความเข้มข้นแอลกอฮอล์ตกลง ความสามารถในการฆ่าเชื้อจะลดลงไปเรื่อยๆ จนถึงจุดๆ หนึ่งจะฆ่าเชื้อไม่ได้
    ...
    การศึกษาเร็วๆ นี้พบว่า กลิ่นลาเวนเดอร์ที่เชื่อกันว่า ทำให้อารมณ์สงบลง ส่งผลทำให้ผู้ชายไม่ค่อยสงบเท่าที่ควร (อาจหงุดหงิดนิดหน่อย)... ถ้าหลีกเลี่ยงกลิ่นนี้ได้น่าจะดี
    ต่อไปเป็นส่วนผสม ซึ่งมีหลักการง่ายๆ คือ
    1.) แอลกอฮอล์ (91% โดยน้ำหนัก / 95% โดยปริมาตร) 
    2.) ส่วน ผสมกับเจลว่านหางจระเข้ 1 ส่วน ถ้าต้องการเตรียมเจลขนาด 1 ถ้วย = 240 มิลลิลิตร (มล.) จะใช้ส่วนผสมดังต่อไปนี้ (1 ถ้วย = 240 มล.)
    • แอลกอฮอล์ 91% > 2/3 ถ้วย = 160 มล. 
    • ว่านหางจระเข้ > 1/3 ถ้วย = 80 มล.
    ...
    คำแนะนำทั่วไปในการใช้เจลแอลกอฮอล์ คือ ควรใช้ปริมาณมากพอที่จะทำให้เราถูมือจนทั่วถึงได้ 10-15 นาที โดยเจลไม่แห้งหายไปเสียก่อน
    ถ้าเจลแห้งหายไปก่อน 10-15 นาที แสดงว่า ใช้เจลน้อยเกินไป


    ชาวชุมชนริมควนขอเสนอตัวอย่าง
     


    ตัวอย่างการเขียนโครงงานอาชีพ
     
    ๑.ชื่อโครงการ โครงการจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป

    ๒.ชื่อผู้ดำเนินโครงการ
              ๑.นางสาวอารียา ศิริมาลา
              ๒.นางสาวสรวงสุดา วิภาวรรณ
              ๓.นางสาววิภาวดี วิเชียรสุวรรณ
              ๔.นางสาวอภิสมัย ศรีคมสัน
              ๕.นายยุรนันต์ ภมรศักดิ์

    ๓.ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ
              ๑.อาจารย์รอบรู้ สอนดี
              ๒.อาจารย์ฉลาด ดีพร้อม

    ๔.หลักการและเหตุผล           อาหารเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคน เราต้องรับประทานอาหารทุกวัน คนในหมู่บ้านของกลุ่มผู้ดำเนินโครงการส่วนใหญ่ประกอบอาชีพนอกบ้าน มักไม่มีเวลาประกอบอาหารเอง ใกล้หมู่บ้านยังมีสำนักงานของเอกชนซึ่งมีพนักงานจำนวนมาก แต่ในบริเวณนี้มีร้านจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปน้อยคุณภาพอาหารและการบริการไม่ค่อยดี ไม่มีร้านจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณภาพดี และราคาปานกลาง สมาชิกของกลุ่มมีความสามารถในการประกอบอาหารได้ดี และบริเวณบ้านของสมาชิกมีสถานที่กว้างเหมาะที่จะจัดเป็นร้านจำหน่ายอาหาร จึงได้จัดทำโครงการจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป

    ๕.วัตถุประสงค์
              ๑.เพื่อให้มีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป
              ๒.เห็นช่องทางและมีความรู้ความสามารถในการประกอบอาชีพจำหน่ายอาหารสำเร็จรูป
              ๓.สามารถนำความรู้ที่ได้จากการเรียนและประสบการณ์การปฏิบัติโครงงานอาชีพไปใช้ประโยชน์
                  ในการประกอบอาชีพได้อย่างเหมาะสม
    ๖.เป้าหมาย
              ด้านปริมาณ  ปรุงและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปในวันเสาร์และวันอาทิตย์
              ด้านคุณภาพ  นักเรียนทุกคนในกลุ่มเห็นช่องทางในการประกอบอาชีพและพัฒนาการประกอบ
                                     อาชีพได้อย่างเหมาะสม
    ๗.ระยะเวลาดำเนินโครงการตลอดโครงการตั้งแต่เปิดภาคเรียนจนถึงปิดภาคเรียน
              ( ๒๐ พฤษภาคม - ๓๐ กันยายน และ ๑ พฤศจิกายน – ๑๕ มีนาคม )

    ๘.สถานที่ประกอบอาชีพ
              บ้านของนางสาวอารียา   ศิริมาลา  ในหมู่บ้านชื่นใจ  แขวงวังทองหลาง  เขตวังทองหลาง
              กรุงเทพมหานคร
    ๙.งบประมาณ
              ๑.แหล่งเงินทุน เงินสะสมของสมาชิกกลุ่ม คนละ ๑,๐๐๐ บาท และเงินยืมจากผู้ปกครองของ
                 นางสาวอารียา  ศิริมาลา เป็นเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท  รวมเป็นเงิน ๑๕,๐๐๐ บาท
              ๒.จำนวนเงินทุนเริ่มโครงการ ๑๕,๐๐๐ บาท
              ๓.ทรัพย์สินถาวร โต๊ะ เก้าอี้ ถ้วย ชาม ช้อน และเครื่องครัว ส่วนหนึ่งยืมใช้ชั่วคราว / จัดซื้อ
              ๔.ทรัพย์สินสิ้นเปลือง  อาหารสด ซื้อเป็นรายวัน
              ๕.เงินทุนขยายกิจการ  หากกิจกรรมประสบความสำเร็จก็จะนำกำไรมาขยายกิจการ และขอยืม
                  เพิ่มเติมจากผู้ปกครอง
              ๖.กำไร (คาดการณ์) ในระยะเริ่มแรกมีกำไรประมาณวันละ ๓๐๐-๕๐๐ บาท

    ๑๐.ขั้นตอนการดำเนินงาน
              ๑๐.๑  การเตรียมการ
                             - ศึกษาสำรวจข้อมูล
                             - เขียนโครงการ
                             - ขออนุมัติโครงการ
                             - เตรียมหาทุน
                             - กำหนดรายการอาหารที่จะปรุงจำหน่าย
                             - ประชาสัมพันธ์ให้ลูกค้าเป้าหมายทราบ
              ๑๐.๒  การเตรียมสถานที่
                             - จัดตกแต่งสถานที
                             - เตรียมวัสดุอุปกรณ์
              ๑๐.๓  ขั้นตอนการดำเนินงานอย่างละเอียด
                             - ศึกษาหาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปฏิบัติงานอาชีพ
                             - ศึกษาสำรวจข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสำรวจความสนใจประกอบการเลือกอาชีพ
                             - วิเคราะห์ข้อมูล
                             - ตัดสินใจเลือกอาชีพ
                             - ศึกษาวิธีเขียนโครงงานอาชีพ
                             - ขออนุมัติโครงงานอาชีพ
                             - ศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติม
                             - กำหนดรายการอาหารที่จะจำหน่าย
                             - ประชาสัมพันธ์บอกกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
                             - เตรียมอุปกรณ์การปรุงอาหาร ภาชนะต่าง ๆ
                             - ตกแต่งสถานที่
                             - ลงมือปรุงอาหารจำหน่าย โดยสับเปลี่ยนหมุนเวียนการปฏิบัติหน้าที่ดังนี้ ซื้ออาหาร
                               สดตกแต่ง / ทำความสะอาดร้าน / ล้างภาชนะ บริการลูกค้า  เก็บเงิน – ทำบัญชี
                             - ประเมินการปฏิบัติงานเป็นรายวัน / รายสัปดาห์
                             - ประเมินสรุปเมื่อปฏิบัติงานเสร็จสิ้น
                             - เสนอแนะแนวทางการพัฒนาอาชีพ

    ๑๑. ปัญหาและแนวทางแก้ไข
              ๑๑.๑ ปัญหา ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างปฏิบัติงาน
                             ๑) ลูกค้ามีไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
                             ๒) ประสบการณ์ในการจำหน่ายสินค้าไม่เพียงพอ
              ๑๑.๒ แนวทางแก้ไข
                             ๑) นำอาหารสำเร็จรูปใส่ถุงไปจำหน่ายตามบ้าน / ชุมชน
                             ๒) ขอคำแนะนำจากอาจารย์ที่ปรึกษาเป็นระยะ
    ๑๒. ผลที่คาดว่าจะได้รับ          - ด้านความรู้และประสบการณ์  นักเรียนทุกคนมีประสบการณ์ในการประกอบอาชีพ เห็นช่องทาง
                ในการประอบอาชีพในอนาคต
              - ด้านผลผลิต  ทรัพย์สิน  กำไร  นักเรียนมีรายได้ระหว่างเรียน  ทำให้เห็นคุณค่าของการประกอบ
                อาชีพ แบ่งเบาภาระผู้ปกครอง

    ลงชื่อผู้เสนอโครงการ



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นางสาวอารียา  ศิริมาลา )



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นางสาวอภิสมัย  ศรีคมสัน )



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นางสาวสรวงสุดา  วิภาวรรณ )



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นางสาววิภาวดี  วิเชียรสุวรรณ  )



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นายยุรนันต์  ภมรศักดิ์ )


    ลงชื่ออาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ




    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นายรอบรู้   ดีพร้อม )



    ( . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .)

    ( นายฉลาด    สอนดี )



    ชาวชุมชนริมควนขอเสนอตัวอย่างโครงการ

    ตัวอย่างแบบเสนอโครงการ

    ประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2556

    *********

    ชื่อโครงการ: ประกวดหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร สาขาบ้านพักโฮมสเตย์

      



    1.  หลักการและเหตุผล

          สืบเนื่องจากหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ ของตำบลหนองหัวแรด เป็นพื้นที่ที่เกษตรกรทำการเกษตรเป็นส่วนใหญ่  การสัญจรผ่านไปมาสะดวก อยู่ใกล้ถนนเส้นหลัก มีภูมิทัศน์ ที่สวยงาม ประกอบกับเกษตรกรในชุมชนมีจิตใจโอบอ้อมอารี โดยจากการที่เกษตรกรทำอาชีพปลูกมันสำปะหลังเป็นพืชหลัก จึงทำให้เกษตรกรมีเวลาว่าง สามารถทำอาชีพเสริมอย่างอื่นได้  จากเหตุผลดังกล่าว จึงมีความเหมาะสมในการพัฒนาและส่งเสริมให้หมู่บ้านโนนสมบูรณ์เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรและสร้างที่พัก(โฮมสเตย์)

          โดยโครงการนี้มีแนวคิดให้เกษตรกรในพื้นที่ พัฒนาบ้านของตนเองให้น่าอยู่  ปลูกพืชผักสวนครัวบริเวณบ้าน เพื่อไว้บริโภคภายในบ้านและขายเป็นรายได้เสริม ปรับแต่งหน้าบ้านให้สวยงามด้วยไม้ดอก ไม้ประดับและเพิ่มรายได้ให้ครอบครัวด้วยการรับรองแขกที่มาเยือนด้วยบ้านพักโฮมสเตย์ โดยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับบรรยากาศและวัฒนธรรมของหมู่บ้าน ใช้ชีวิตร่วมกับคนในชุมชนและบริโภคพืชผักสวนครัวพื้นบ้าน ซึ่งเป็นกระแสความต้องการของผู้คนในปัจจุบัน และทำให้มีเม็ดเงินเข้ามาในหมู่บ้าน  จากเหตุผลดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนในหมู่บ้านเกิดความเข้มแข็ง พัฒนาหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ให้น่าอยู่  จึงได้จัดประกวดหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตร สาขาบ้านพักโฮมสเตย์  เพื่อรองรับการดำเนินงานดังกล่าวขึ้น

    2.  วัตถุประสงค์

          1.  เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนและระบบครอบครัว

          2.  เพื่อเสริมรายได้ให้กับเกษตรกรในชุมชน
          3.  เพื่อสร้างหมู่บ้านให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร



    3.   กลุ่มเป้าหมาย

          ประชาชนหมู่บ้านโนนสมบูรณ์ จำนวน  20   ครัวเรือน
    4.   เป้าหมายในการดำเนินกิจกรรม
          1.
    พัฒนาบ้านให้น่าอยู่ อุดมด้วยพืชผักสวนครัว  สร้างหน้าบ้านให้สวยด้วยไม้ดอก 
    ไม้ประดับ 
          2.
    ส่งเสริมให้เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงเกษตรและบ้านพักโฮมสเตย์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2556

    5.
    วิธีดำเนินการ
       
    ขั้นตอนที่ 1
          1.   ประชุมชี้แจงโครงการ/หลักเกณฑ์การประกวดให้แก่สมาชิกในหมู่บ้าน
          2.   
    เขียนแผนการดำเนินงานโครงการ/แบบขอเสนอโครงการ
          3.   
    เสนอโครงการ
          4.   
    แต่งตั้งคณะกรรมการการประกวด ซึ่งประกอบด้วย ส่วนราชการ เอกชน และตัวแทนจากชุมชน
          5.   
    ดำเนินการตามแผน
             -
    ปรับทัศนียภาพสองข้างทางเข้าหมู่บ้าน
             -
    แจกพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับให้กับครัวเรือน
             -
    ปรับปรุงและพัฒนาบ้านพักตามหลักเกณฑ์การประกวด
       
    ขั้นตอนที่ 2
          1.   
    รับสมัครบ้านพักโฮมสเตย์ที่จะเข้าร่วมโครงการและประกวด
          2.   
    ดำเนินการประกวดตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
       
    ขั้นตอนที่ 3
          1.   
    มอบรางวัลให้กับบ้านพักโฮมสเตย์ที่ชนะการประกวด
          2.  
    ประชาสัมพันธ์ / นำสื่อมวลชนศึกษาดูงาน / เชิญชวนการท่องเที่ยว

    6.
    ระยะเวลาดำเนินการ
          
    เดือนธันวาคม 2556– กุมภาพันธ์ 2557

    7. 
    สถานที่ดำเนินการ
          
    บ้านโนนสมบูรณ์  ตำบลหนองหัวแรด  อำเภอหนองบุญมาก


    8. 
    งบประมาณ 
          150,000
    บาท 
         
    มีรายละเอียดดังนี้ 
          -   
    ค่าปรับปรุงภูมิทัศน์สองข้างถนนเข้าหมู่บ้าน เป็นเงิน  40,000 บาท
           -   
    ค่าพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับ  จำนวน 40,000 บาท
            -   
    ค่าเงินรางวัลการประกวด 70,000 บาท

    9.
    หน่วยงานรับผิดชอบ
          -  
    เทศบาล
    อำเภอหนองบุญมาก 
          - 
    ชุมชน
    บ้านโนนสมบูรณ์ 

                    
     


    โครงการปลูกจิตสำนึกรักษ์ถิ่น ของชาวชุมชนริมควน มีดังนี้
    1.) รู้รักษาอนุรักษ์น้ำ
    2.) รู้รักษาอากาศ
    3.) รู้รักษาต้นไม้
    4.) รู้รักษาความสะอาด
    5.) รู้รักษากริยา มารยาท
    6.) รู้รักษาคุณธรรม และจริยธรรม
    7.) รู้รักษาวัฒนธรรม ประเพณี
    8.) รู้รักษาความสามัคคี
    9.) รู้รักษาความปลอดภัย

    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ

    การทำสบู่เหลวใช้เอง ประหยัดเงินและมีคุณภาพวัสดุทีใช้

    ๑.น้ำหมักชีวภาพ ๕ ช้อนโต๊ะ ๒.น้ำ ๓ ลิตร

    ๓.ผงฟอง ( N ๗๐ ) ๒ ช้อนโต๊ะ ๔.ตะไคร้หั่นฝอย ๑๐ ต้น

    ๕.มะขามเปียก ครึ่งกิโลกรัม

    วิธีทำ

    ๑. นำผงฟองมาละลายกับน้ำ

    ๒.นำน้ำมาต้ม ใส่ตะไคร้ มะขามเปียกตอนเดือด

    ๓.เมื่อน้ำเดือดยกลง ทิ้งไว้จนอุ่น กรองเอาแต่กากทิ้ง

    ๔.นำน้ำที่ได้มาผสมกับผงฟองที่ละลายน้ำแล้วคนให้ทั่ว

    ๕.เติมน้ำหมักชีวภาพ

    ประโยชน์

    ใช้อาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกาย
    สมุนไพรพื้นบ้านที่น่าสนใจ

    กระดังงาไทย: แก้ลมวิงเวียน ชูกำลัง ทำให้รูสึกสดชื่น ปลอดโปร่ง ร่างกายแข็งแรงเสมอ

    ใบชา: ทำให้เกิดความชุ่มชื้น ชูกำลัง บำรุงโลหิต ขับลม แก้อาการเสมหะ

    ยางกำยาน: บำรุงหัวใจ ทำให้สดชื่น บำรุงร่างกาย

    ดอกกรรณิกา: แก้ลมวิงเวียนได้ดี ชูกำลัง ทำให้รูสึกสดชื่น ปลอดโปร่ง ร่างกายแข็งแรงเสมอ

    ดอกงิ้ว: แก้อาการประสาท แก้พิษไข้

    รากงิ้ว: บำรุงร่างกาย แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน

    ดอกจำปา: แก้ลมวิงเวียนได้ดี แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ

    ลูกชุมเห็ดไทย: ชูกำลัง ทำให้เกิดความชุ่มชื้น และแก้อาการช้ำบวม

    รากตะไคร้ต้นหรือตะไคร้บก: ขับลมที่เกิดในลำไส้

    รากมะกรูด: แก้อาการเป็นลม แน่น จุกเสียด ถอนพิษ

    มะตูมสุก: แก้ลมจุกเสียด แน่น แก้กระหายน้ำ ขับลม ช่วยย่อยอาหาร

    ดอกขิงแห้ง: บำรุงกำลังร่างกาย บำรุงธาตุได้อีก แก้อ่อนเพลีย

    หัวถั่วพู: บำรุงกำลังร่างกาย ชูกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย

    บัวบก: บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ

    รากมะนาว: บำรุงประสาท แก้อาการเป็นไข้ ทำให้กล้ามเนื้อไม่ปวดเมื่อยแต่แข็งแรงดี

    กฤษณา: บำรุงกำลังร่างกาย แก้อาการเป็นลม หน้ามืดวิงเวียนได้ดีมาก

    แก่นขนุน: บำรุงกำลัง บำรุงร่างกาย

    ดอกคำฝอย: บำรุงร่างกาย บำรุงกำลัง สร้างโลหิตทำให้บริสุทธิ์ บำรุงหัวใจได้ดี ขับประจำเดือน แก้อาการปวดแสบร้อนที่ผิวหนัง

    ไมยราบ: บำรุงประสาท กล่อมประสาท จิตใจสดชื่น

    ขี้เหล็ก: ป้องกันการระบาย ช่วยจิตใจสดชื่น หลับสบาย ไม่เครียด

    ดอกกุหลาบ: บำรุงกำลัง บำรุงหัวใจ สร้างความสดชื่นได้ดี

    ลูกมะขามป้อมแก่: แก้อาการเป็นลม มีไข้ แก้เสมหะมาก

    ลูกสมอเทศแก่: แก้เสมหะ ขับลม

    รากข่า: แก้อาการมีเสมหะมาก แก้อาการชาแก้โลหิตเสีย

    รากกะเพรา: แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ เรอเปรี้ยว ขับลม บำรุงธาตุ แก้จุกเสียด

    ขิงสด: แก้อาการเป็นลม จุกเสียด แน่น

    เมล็ดพริกไทย: แก้อาการเป็นลม ขับเสมหะได้ดี



    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ


    สมุนไพรย้อมผม

    รายละเอียด



    เทียนกิ่ง/เฮนน่า 

    ( กลุ่มพืชถอนพิษ) 





    ชื่ออื่น : เทียนขาว เทียนแดง เทียนไม้ เฮนน่า 



    ส่วนที่ใช้ : ใบสดและแห้ง ราก เปลือกต้น ดอก ผล 



    สรรพคุณ : 

    ใบ : - มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อโรค ใช้ทำยากันเล็บถอด เล็บช้ำ เล็บขบ แก้ปวดนิ้วมือนิ้ว 
    เท้า แผลมีหนอง ถอนพิษปวดแสบปวดร้อน ฝี แผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก 
    แผลฟกช้ำ ผิวหนังอักเสบ พอกแก้ห้อเลือด ห้ามเลือด แก้อักเสบบวม 
    - รักษากามโรค แก้ปวดท้อง ท้องร่วง ขับปัสสาวะ 
    - ใช้เป็นเครื่องสำอาง พอกเล็บ เป็นยาย้อมผม ขน 

    ราก: - ใช้ขับประจำเดือน รักษาตาเจ็บ ขับปัสสาวะ และรักษาโรคลมบ้าหมู 

    เปลือก - ขับน้ำเหลืองเสียในโรคเรื้อน 

    ดอก - ใช้ขับประจำเดือน แก้ปวดศีรษะ รักษาดีซ่าน 

    ผล - ใช้ขับประจำเดือน 

    ผงใบเทียนกิ่งแห้งใช้เป็นยาย้อมผมสีน้ำตาลแดงช่วยป้องกันผมจากแสงแดด 


    วิธีและปริมาณที่ใช้ : 

    ยากันเล็บถอด เล็บขบ เล็บช้ำ 

    วิธีใช้ :สูตร1 ใบเทียนกิ่งสด 20-30 ใบ ล้างให้สะอาดตำให้ละเอียด เอาข้าวสุกปั้นเป็นก้อนขนาดเท่าแม่มือ เผาไฟให้บางส่วนดำเป็นถ่านตำรวม ใส่เกลือเล็กน้อย พอกที่เล็บซึ่งถูกของหนักๆ ทับ หรือตรงจมูกเล็บเป็นหนอง หนองก็จะหาย เล็บไม่ถอด 
    :สูตร2 ใบเทียนกับขมิ้นอ้อยและเกลือพอประมาณ นำมาตำให้ละเอียด แล้วใช้พอกเล็บ เป็นยาช่วยรักษาเล็บขบเล็บเป็นแผล หรือเป็นหนอง 

    - ใบสด หรือใบแห้งนำมาต้นเอาน้ำอมบ้วนปาก และคอ แก้เจ็บคอ 
    - ใช้น้ำล้างหรือทา บาดแผล แผลสด แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก แผลบวม 
    ฟกช้ำ ฝี หรือโรคผิวหนัง 
    - นำมาดื่มแก้โรคท้องร่วงได้ดี 


    ผมสวยด้วยเทียนกิ่งมี 2 แบบ 

    1. การย้อมผมโดยใช้ใบเทียนกิ่งสด 
    วิธีทำ: 
    นำใบเทียนกิ่ง 1 ชามก๋วยเตี๋ยวใส่เครื่องปั่นน้ำผลไม้ เติมน้ำพอท่วมใบ ปั่นให้ละเอียด กรองด้วยผ้าขาวบางหรือถุงกรอง บีบเอาแต่น้ำ 
    นำใบเทียนกิ่งชามที่ 2 ใส่เครื่องปั่น แล้วนำน้ำที่กรองได้จากข้อ 1 เติมลงไป ปั่นให้ละเอียด กรองเอาแต่น้ำ 
    นำใบเทียนกิ่งชามที่ 3 ใส่เครื่องปั่น แล้วนำน้ำที่กรองได้จากข้อ 2 เติมลงไป ปั่นให้ละเอียด 
    - ถ้าต้องการให้ผมนิ่มให้เติมวุ้นใบว่านหางจระเข้สด 
    - ถ้าต้องการให้ผมสีแดงส้มเข้มขึ้น ให้ผสมกาแฟผง หรือดอกอัญชัน และน้ำ 
    มะนาว 
    - ถ้าต้องการสีออกส้มมากขึ้น ให้ผสมชา 
    แบ่งผมออกเป็นช่อๆ สวมถุงมือ แล้วนำน้ำใบเทียนกิ่งป้ายลงบนเส้นผม โดยเริ่มจากโคนผมจนถึงปลายผม เน้นป้ายที่โคนผมให้ทั่ว คลุมด้วยหมวกพลาสติก หมักไว้ 2-3 ชั่วโมง แล้วสระผมตามปกติ 


    2. การย้อมผมโดยใช้ผงใบเทียนกิ่งบดแห้ง 

    วิธีทำ 
    ผสมผงใบเทียนกิ่งกับน้ำร้อน คนผสมให้เข้ากันจนข้นเป็นเนื้อครีม ใช้วาสลีนหรือครีมทาบริเวณไรผมโดยรอบ เพื่อไม่ให้สีของใบเทียนกิ่งติดผิวบริเวณใบหน้า 
    แบ่งผมออกเป็นช่อๆ สวมถุงมือ แล้วนำผงใบเทียนกิ่งป้ายลงบนเส้นผม โดยเริ่มจากโคนผมจนถึงปลายผม เน้นป้ายที่โคนผม 
    เมื่อทาเสร็จแล้ว ให้นำหมวกพลาสติกคลุมผมเอาไว้ แล้วพันทับด้วยผ้าขนหนูทิ้งไว้ประมาณ 2-3 ชั่วโมง หากต้องการให้สีเข้มขึ้นอาจทิ้งไว้นานเท่าที่ต้องการ 
    สระออกด้วยน้ำธรรมดา ห้ามใช้แชมพูเด็ดขาด แล้วทิ้งให้แห้ง 

    ข้อแนะนำ!!!!!!!! 

    ปริมาณของผงเทียนกิ่งบดแห้งที่ใช้ขึ้นอยู่กับลักษณะและความยาวของเส้นผม โดยทั่วไปจะใช้ปริมาณผงเทียนกิ่งดังนี้ 

    - ผมสั้น ใช้ 60 – 100 กรัม 

    - ผมยาวปานกลาง ใช้ 100 – 150 กรัม 

    - ผมยาวมาก ใช้ 150 – 250 กรัม 

    - ถ้ามีผมเส้นใหญ่ หรือผมหนา ให้ให้ใช้ปริมาณมากขึ้น 

    เมื่อเส้นผมยาวขึ้นก็จะไม่เห็นขอบเขตของสีผมแตกต่างกันอย่างชัดเจนเหมือนยาย้อมผมแบบเคมี แต่เทียนกิ่งก็มีจุดอ่อนตรงที่สีจะจางลงจากการสระผม แปรงผม จึงต้องย้อมซ้ำทุก 3-4 สัปดาห์ 

    ข้อดีที่แตกต่างในการใช้เทียนกิ่ง/เฮนน่า กับยาย้อมผมทั่วไป 

    เทียนกิ่งให้สีน้ำตาลเข้มออกแดง การใช้ย้อมผมโดยสีของเทียนกิ่ง/เฮนน่าจะเคลือบชั้นนอกสุดของเส้นผมเอาไว้ ดังนั้นนอกจากเทียนกิ่ง/เฮนน่าจะเปลี่ยนสีผมแล้ว มันยังช่วยปกป้องเส้นผมจากแสงแดด และฝุ่นผงในอากาศได้เทียนกิ่ง/ เฮนน่าที่เคลือบอยู่บนเส้นผมจะทำให้ผมเป็นสีน้ำตาลแดง เป็นเงางาม มีน้ำหนัก สปริงตัวได้ดีเป็นธรรมชาติ และแก้ผมแตกปลายไปในตัวด้วย 
    เฮนน่ามีราคาถูกมากๆเทียนกิ่ง/ เฮนน่า 100 กรัม ราคาไม่ถึง 20 บาท และแม้ผมของคุณจะยาวขึ้น แต่ก็จะไม่เห็นขอบเขตของสีผมแตกต่างกันอย่างชัดเจนแบบขาวเป็นแถบอยู่ใกล้หนังศีรษะเหมือนยาย้อมผมแบบเคมี 

    สมุนไพรที่เพิ่มความสวยงามในการย้อมผมแบบเทียนกิ่ง/เฮนน่า 

    การใช้เฮนน่าร่วมกันสมุนไพรอื่นสามารถทำได้ แต่เฮนน่าก็ยังเป็นสีหลัก ผมที่ได้คือสีย้อมจะเปลี่ยนแปลงโทนสีไป คุณสามารถเลือกโทนสีได้หลายอย่าง เช่น 

    1.กาแฟ จะให้โทนสีแดง ให้ใส่กาแฟ 1-2 ช้อนโต๊ะลงไปตอนเตรียมเฮนน่า 
    2.ดอกอัญชัน จะทำให้สีผมเข้มขึ้น ให้ใช้ดอกอัญชัน 30-50 ดอก ต้มรวมกับน้ำชาจนกลีบดอกสีจางลงแล้วคั้นเอากากออก จะได้สีน้ำเงินเข้มเอาไว้ผสมกับเฮนน่า เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบผมแดง 
    3.น้ำส้มไซเดอร์ เป็นน้ำส้มจากแอปเปิ้ล ให้ใช้ครั้งละ 3 ช้อนโต๊ะ ผสมลงไปตอนเตรียมเฮนน่าจะให้สีประกายทอง 
    4.กานพลู ใช้กานพลู 3 กรัมใส่ลงไปตอนเตรียมเฮนน่า ทำให้ผมเข้มขึ้นใกล้เคียงสีดำ 
    5.เหล้าคอนยัค เติมเหล้าคอนยัค 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะลงไปตอน เตรียมเฮนน่าจะได้ผมสีค่อนข้างแดง 
    อาการแตกปลายดูดีขึ้น สำหรับคนที่มีรังแค เฮนน่าก็เป็นสมุนไพรรักษาหนังศีรษะด้วย ไม่นานอาการรังแคก็จะหายไปเอง 

    การใช้งานด้านภูมิทัศน์ ดอกสวย ปลูกประดับเป็นไม้ประธาน หรือเป็นแนวรั้วบัง 
    สายตา ตัดเเต่งเป็นรูปทรงต่างๆได้ ปลูกริมถนน ทางเดิน ริมทะเล 



    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ


    สูตรทำโลชั่น/ครีม ทาผิว 

    หลายท่านที่เคยทำโลชั่นทาผิวแบบเดิม ๆ ที่ต้องมีส่วนผสมในส่วนของน้ำ และน้ำมัน สารกันเสียก็ต้องใช้ถึง 2 ตัว คือ PROPYL PARABEN และ METHYL PARABEN ปัญหาส่วนใหญ่ที่มักจะเป็นที่ถกเถึยงกันคือ ทำไมสองส่วนเมื่อผสมกัน จะแยกชั้นไม่เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน ในสูตรการทำแบบเก่า ต้องใช้ความร้อนที่คงที่ เหมือนกัน จึงจะเข้ากันได้

    ทั้งนี้ทาง บริษัท ฮงฮวด จำกัด จึงมีขอนำเสนอสูตรใหม่ ที่จะทำให้ปัญหาข้างต้นหมดไป ไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิ สารกันเสีย แถมยังทำได้ทั้งแบบโลชั่น และแบบครีมอีกด้วย คือ



    วัตถุดิบหลักที่เกี่ยวข้องได้แก่

    HH LOTION CSP
    สารสร้างความหนืด และช่วยประสานน้ำกับน้ำมัน



    HH LOTION ESG
    สารช่วยประสานน้ำกับน้ำมัน

    
    HH LOTION COE
    สารทำให้ผิวอ่อนนุ่ม

    

    CARNATION 70
    น้ำมันแร่เหลว สีขาว ใช้หล่อลื่น และให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนัง
     



    PROPYLENE GLYCOL @ 1 KG ใช้ในการทำ HH SKIN LOTION
    สารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว


    GLYDANT @ 0.10 KG
    สารกันเสีย
    วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ HH SKIN LOTION เมื่อทำเสร็จจะได้ 10 กิโลกรัม
    1. HH LOTION CSP
    2. HH LOTION COE
    3. CARNATION 70
    4. PROPYLENE GLYCOL
    5. GLYDANT
    6. AQUA
    7. HH LOTION ESG
    8. PERFUME
    วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ HH SKIN CREAM  เมื่อทำเสร็จจะได้ 10 กิโลกรัม
    1. HH LOTION CSP
    2. HH LOTION COE
    3. CARNATION 70
    4. IMEX GLYCERINE
    5. GLYDANT
    6. AQUA
    7. HH LOTION ESG
    8. PERFUME
    วิธีการทำโดยละเอียดมีดังนี้
    1. นำส่วนผสมใน PHASE 1 มาผสมรวมกัน แล้วกวนให้เข้ากัน ที่อุณหภูมิปกติ แล้วพักไว้
    2. นำส่วนผสมใน PHASE 2 มาผสมรวมกัน แล้วกวนให้เข้ากัน ที่อุณหภูมิปกติ แล้วพักไว้
    3. นำทั้งสองส่วนที่พักไว้ มาผสมรวมกันอีกครั้ง แล้วกวนให้เข้ากัน
    4. เติมกลิ่นหัวน้ำหอมตามความต้องการ
    ข้อดีของสูตรนี้ คือ
    • ทำง่าย ไม่ต้องกังวลเรื่องความร้อน
    • ประหยัดเวลาในการทำมาก
    • ใช้สารกันเสียเพียงตัวเดียว


    ชาวชุมชนริมควน หาดใหญ่
    กำลังจัดทำโครงการชุมชนน่าอยู่
    รายละเอียด
    1.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน ทราบถึง 
    พิษภัยของยาเสพติด ทุกชนิด
    2.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การป้องตัวเองจากโรคไข้เลือดออก ,โรคเบาหวาน ,โรคความดัน เป็นต้น
    3.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การรักษาสิ่งแวดล้อม ในที่พักอาศัย และในที่สาธารณะของชุมชน ตลอดถึงแหล่งน้ำ
    4.)ชุมชนต้องการในความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การแยกขยะที่มีค่า ,ขยะอันตราย ,ขยะเชื้อเพลิง
    5.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    ประโยชน์ของการออกกำลังกาย
    6.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การต้อนรับนักท่องเที่ยว ,การรู้ภาษาอังกฤษ,
    7.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การรับประทานอาหารที่ถูกสุขลักษณะ
    8.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การป้องภัย,ปราบปราม โจร  และขบวนการรักษาความปลอดภัยในชุมชน
    9.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    การซ่อมแซมไฟฟ้าเบื้องต้นภายในที่พักอาศัย
    10.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    อาชีพต่างๆที่เสริมรายได้ของชุมชน
    11.)ชุมชนต้องการให้ความรู้กับชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมควน  ทราบถึง
    กฎหมายรัฐธรรมนูญ , กฎจราจร
    ขั้นตอนการจัดทำโครงการชุมชนน่าอยู่
    1.)ประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ชุมชน
    2.)ศึกษา และคัดเลือก กลุ่มชาวบ้านในชุมชน
    3.)จัดหาสถานที่ในชุมชน
    4.)นำวิทยากรมาในความรู้ของชาวบ้าน
    5.)วิเคราะห์ปัญหา และอุปสรรค์ ต่างๆ
    6.)สรุปการจัดทำโครงการชุมชนน่าอยู่



    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำการทำ


    การทำยาสระผมใช้เอง
    แชมพูสระผม - ว่านหางจระเข้ - มะกรูด

    ส่วนผสม

    1 หัวแชมพู 8000 2 กก.
    2 ผงฟอง 1 ขีด
    3 ผงข้น 1 ขีด
    4 ลาโนลีน 1 ขีด
    5 กลิ่นคาโอ 1 ออนซ์
    6 ว่านหางจระเข้ 150 กรัม
    7 มะกรูด 150 กรัม
    8 สีเขียว ฟ้า 1 ห่อ
    9 น้ำกลั่น 2 ลิตร

    วิธีทำ
    นำผงฟองเทผสมลงในน้ำ 1 ลิตร คนจนเป็นเนื้อเดียวกัน เติมหัวแชมพู คนให้เข้ากัน นำลาโนลีนมาละลายในน้ำร้อนแล้วเทลงในส่วนผสม คนให้เข้ากัน จากนั้นเติม กลิ่น สี ว่านหางจระเข้ มะกรูด คนให้เข้ากัน เสร็จแล้วค่อยๆเติมผงข้นลงไปในส่วนผสมโดยเติมไปคนไปจนข้นพอประมาณ ปล่อยทิ้งค้างคืนไว้ 1 คืนจึงนำไปบรรจุ


    แชมพูสระผม “ดอกอัญชัน”
    ส่วนผสม
    1. ใช้ดอกอัญชันชนิดแห้ง 30-50 กรัม (ทำให้เส้นผมดกดำ)
    2. หัวแชมพู N.8000 3 กิโลกรัม (สารชะล้าง)
    3. ผงข้น 60-80 กรัม (ทำให้ส่วนผสมข้นเหนียว)
    4. น้ำสะอาด 2 กิโลกรัม
    5. วิตามินบี 5 50 กรัม (บำรุงเส้นผม)
    6. ลาโนลีน 100 กรัม (ทำให้ผมลื่น)
    7. บี.บี. 120 กรัม (ทำให้ผมนิ่ม)
    8. กลีเซอรีน 100-150 กรัม (ให้ความชุ่มชื้น)
    9. น้ำหอม 1-2 ออนซ์ (ทำให้ผลิตภัณฑ์มีกลิ่นหอม) แนะนำให้ใช้กลิ่น HERBAL SH-6267 ร้านวันรัตน์
    10. วัตถุกันเสีย 50 กรัม (ทำให้ผลิตภัณฑ์อยู่นาน)
    11. สีเชื้อน้ำเล็กน้อย
    12. โปรดิวส์-500 100 กรัม (โปรตีนบำรุงเส้นผม)
    13. PQ-7 100 กรัม (ปรับสภาพเส้นผม)
    14. FINQUAT-CT 150 กรัม (ช่วยลดการชี้ฟูของเส้นผม)
    หมายเหตุ
    - ในกรณีใช้ดอกอัญชันสดจะต้องใช้ 1 เท่า ของดอกอัญชันแห้ง เช่น ใช้ดอกอัญชันแห้ง 30 กรัม สด 60 กรัม หรือใช้ดอกอัญชันแห้ง 50 กรัม สด 100 กรัม
    - ต้องดึงเกสรและขั้วของดอกอัญชันออกให้หมด เพราะถ้าไม่ดึงออกให้หมดเวลาใช้ทำให้คัน
    วิธีทำ
    1. ตวงน้ำตามสูตรแล้วนำไปต้มให้ร้อนก่อนแล้วจึงนำดอกอัญชันต้มกับน้ำให้เดือด ต้มจนดอกอัญชันซีด แล้วยกขึ้นมากรองเอาน้ำดอกอัญชัน (เวลากรองห้ามบีบผ้ากรอง)
    2. ตักน้ำดอกอัญชันมาพอประมาณ นำลาโนลีนลงไปผสมให้ละลาย แล้วทิ้งให้เย็นสนิท
    3. น้ำดอกอัญชันที่เหลือปล่อยทิ้งให้เย็นสนิท
    4. เมื่อน้ำดอกอัญชันในข้อ 3 เย็นสนิทแล้วให้ตวงดูว่าได้เท่าไร และน้ำลาโนลีนเย็นสนิทแล้วก็ให้ตวงดูว่าได้เท่าไรเช่นกัน (แยกคนละภาชนะ) แล้วนำตัวเลขที่ได้มาคำนวณดูว่าขาดน้ำอีกเท่าไร จากสูตร ให้เติมน้ำสะอาดได้ที่น้ำดอกอัญชันที่เหลือ เช่น น้ำดอกอัญชันได้ 1 กิโลกรัม และน้ำลาโนลีน ได้ 500 กรัม รวมแล้ว 1,500 กรัม หรือ 1 1/2 กิโลกรัม แสดงว่าขาดน้ำอีก 500 กรัม หรือ 1/2 กิโลกรัม จึงเติมไปที่น้ำดอกอัญชันแล้วคนให้เข้ากันอีกที
    5. เมื่อได้น้ำดอกอัญชันตามที่คำนวณแล้วเติม N.8000 ลงไปคนให้เข้ากัน
    6. เติมน้ำลาโนลีนลงไปผสมแล้วคนให้เข้ากัน เติมผงข้นลงไปแล้วกวนให้เสียงของผงข้นหายไป (เวลากวนจะมีเสียงดัง) แชมพูจะข้นเหนียวและเข้ากันดี
    7. เติมวิตามินบี 5, กลีเซอรีน, บี.บี. และโปรดิวส์-500, PQ-7, FINQUAT-CT, วัตถุกันเสีย, น้ำหอม (เวลาเติมให้เติมทีละตัว แล้วคนให้เข้ากันทีละตัวเช่นกัน) เมื่อคนเข้ากันดีทิ้งให้ฟองยุบแล้วจึงบรรจุภาชนะ

    ยาสระผมมะกรูด 


    ใครมีมีปัญหาเรื่องผมไม่สวย ไร้น้ำหนัก รังแค ลองสูตรนี้เลยค่ะยาสระผมมะกรูด แล้วจะพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น
    สรรพคุณ
    น้ำมันหอมระเหยในผิวมะกรูดมีสรรพคุณบำรุงผม ช่วยให้ผมดกดำเป็นเงางาม ไม่ร่วงง่าย ไม่หงอกเร็ว ขจัดรังแค แก้คันศีรษะ บำรุงเส้นผม
    ส่วยผสม
    มะกรูด
    วิธิทำ
    1. เอาผลมะกรูดมาใส่หม้อ ใส่น้ำลงไป 2 แก้วต่อมะกรูด 1 ลูก
    2. ตั้งไฟอ่อนๆ ต้มให้เดือดนาน 15-20 นาที
    3. ปล่อยทิ้งไว้ให้เย็น ขยำลูกมะกรูดกับน้ำต้ม แล้วกรองเอากากออก
    4. เอาน้ำมะกรูดที่ได้ไปสระผม
    หมายเหตุ
    ถ้าทำในปริมาณมากสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อนำมาใช้ครั้งต่อไปได้


    สูตรแชมพูสมุนไพรสด สูตรรำข้าว

    ส่วนประกอบ :

    - มะกรูด 1 ผล
    - ฝักส้มป่อย 1-2 ฝัก
    - รำข้าวละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
    วิธีทำ :
    1. นำมะกรูดและฝักส้มป่อยไปเผาไฟให้มีกลิ่นหอม
    2. ผ่าซีกมะกรูด นำไปต้มรวมกับฝักส้มป่อยในน้ำ 1 ชาม  ต้มจนเดือด
    3. นำน้ำที่ต้มได้ผสมกับน้ำเย็น 1 กะละมัง
    4. เติมรำข้าว คนให้เข้ากัน  เอาน้ำที่ได้ไปชโลมเส้นผม นำกะละมังมารองน้ำที่ใช้ชโลมแล้วกลับมาทำซ้ำอีก ใช้หวีซี่ห่างสางผมไปด้วย ทำเช่นนี้ไป 10-15 นาที ล้างออกด้วยน้ำสะอาด 
    สูตรนี้เมื่อใช้แล้วจะทำให้ผมนิ่ม ไม่พันกัน และมะกรูดจะช่วยรักษารังแคและอาการคันหนังศีรษะ
    ใส่ใจหนังศีรษะบ้าง

         
    เมื่อมีความเครียดเกิดขึ้น กล้ามเนื้อใต้หนังศีรษะก็จะเกิดความตึงเครียดด้วย ทำให้ระบบไหลเวียนน้ำเหลืองใต้หนังศีรษะทำงานได้ไม่ดีและเกิดเป็นของเสียตกค้างใต้หนังศีรษะ ส่งผลให้เลือดและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงเส้นผมได้ไม่เพียงพอ การนวดผ่อนคลายกล้ามบริเวณหนังศีรษะจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยการนวดหนังศีรษะทุกครั้งที่สระผม ด้วยการกางนิ้วมือทั้งสิบกดลงไปและนวดให้ทั่วศีรษะ  เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นและผ่อนคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และนวดต้นคอและบ่าทั้งสองข้าง  เพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิตและการไหลเวียนน้ำเหลืองให้ทำงานดีขึ้น
         นอกจากการนวดหนังศีรษะแล้ว การดีท็อกเส้นผมและหนังศีรษะก็สามารถช่วยกำจัดของเสียได้เช่นกัน โดยทำได้ 2 วิธีคือการนวดด้วยมือ และการดีท็อกหนังศีรษะด้วยแรงดันน้ำระบบสูญญากาศ เพื่อชะล้างคราบสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่บนเส้นผม  และใช้น้ำอุ่นกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตให้หล่อเลี้ยงหนังศีรษะได้ดีขึ้น แต่ละวิธีมีข้อดีและข้อจำกัดต่างกันไป เช่น การนวดด้วยมือสามารถสร้างความผ่อนคลายได้มากกว่าการนวดด้วยเครื่อง ในขณะที่การนวดด้วยเครื่องสามารถทำความสะอาดเส้นผมได้ล้ำลึกมากกว่าการนวดด้วยมือเป็นต้น
         การทำดีท็อกหนังศีรษะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน เช่น ผู้ที่ทำสีผมบ่อย ผมเสียมาก หรือมีปัญหาเรื่องผิวหนังอักเสบ เป็นแผลเป็นรังแค อาจทำบ่อยได้ถึง 2 ครั้งต่อเดือน สำหรับผู้ต้องการดูแลเส้นผมธรรมดาอาจทำเดือนละ 1 ครั้งก็น่าจะพอแล้ว

         การเสริมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผมจากภายในด้วยการเลือกกินอาหารก็จำเป็นเช่นกัน ถ้าคุณต้องการให้ผมเงางามควรกินสารอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูง เช่น ฟักทอง มะละกอ ตำลึง หรือแครอท และควรเสริมวิตามินซีและอี ธาตุสังกะสี  ธาตุเหล็ก จากอาหารจำพวกข้าวไม่ขัดขาว ข้าวสาลี ไข่ ถั่ว นม ธัญพืช ผักผลไม้ และตับ เพื่อบำรุงเส้นผมด้วย ที่สำคัญควรลดการดื่มน้ำอัดลม เนื่องจากทำให้เลือดเป็นกรดและส่งผลให้เส้นผมสูญเสียแร่ธาตุ

    วิธีทำแชมพูมะกรูด

    สำหรับ ทุกคน
    การทำ แชมพูมะกรูด
    ประโยชน์ของแชมพูมะกรูด คือ ทำให้รากผมมีชีวิต ดำ และแข็งแรง
    วิธีทำ
    1 มะกรูด 11 ลูก เผาไฟพอประมาณ(not burn) เพื่อกระตุ้นให้น้ำมันมะกรูดออก
    2 หั่นออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาเม็ดออก
    3 นำมะกรูดที่หั่นแล้วใส่เครื่องปั่น ผสมน้ำอัตราส่วน 1:1 จนละเอียด
    4 คั่นน้ำมะกรูดด้วยผ้าขาวบาง (เพื่อตั้งไฟ)
    5 นำน้ำมะกรูดที่คั่นไปต้มฆ่าเชื้อ ต้มพอเป็นไอ (ไม่ต้องเดือด เพราะน้ำมันจะระเหยหมด)
    6 ตั้งไว้จนเย็น นำใส่ขวดเก็บไว้ใช้ มีอายุประมาณ 3 เดือน
    ราคาขายตามท้องตลาดประมาณขวดละ 135 บาท (มะกรูด 11 ลูกนี่แหละ)

    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำการเขียนโครงการฯ



    ตัวอย่างการทำโครงการทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
    1.ชื่อเรื่อง   การทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
    2.ชื่อผู้ร่วมดำเนินการจัดการความรู้               
    2.1  ชื่อผู้บริหาร  นายสมาน ขอดจันทึก  เกษตรอำเภอโนนสูง                
    2.2  ชื่อสกุลผู้ดำเนินการ  นางสิริพร หมีทอง  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว                
    2.3  ชื่อสกุลผู้จดบันทึก  นางสาวอาจรี วิเศษศรี   นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 6 ว                
    2.4  ชื่อสกุลเจ้าขององค์ความรู้  นางถนอมสิน จูงกลาง บ้านเลขที่ 5  หมู่ที่ 6   ตำบลใหม่   อำเภอโนนสูง  จังหวัดนครราชสีมา
    3.วันเดือนปี  ที่ดำเนินการจัดการความรู้    29  กรกฏาคม  2551
    4.  สถานที่ดำเนินการจัดการความรู้  ที่ทำการกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุม  หมู่ที่ 6  ตำบลใหม่  อำเภอโนนสูง  จังหวัดนครราชสีมา
    5.   ส่วนนำ   มะกรูดเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางสูงประมาณ 3 เมตร ในชนบทมีการปลูกมะกรูดเพื่อใช้สอยแทบทุกครัวเรือน ใบมะกรูดนำไปซอยหรือเด็ดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ปรุงรสในต้มยำ เปลือกผลมะกรูด หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ใส่ตำรวมเป็นน้ำพริกแกง มะกรูดทั้งผลนำไปวางในห้องน้ำทำให้มีกลิ่นหอม    นอกจากนี้บางคนยังได้นำผลมะกรูดไปสระผมทำให้ผมสลวยสวยงาม  จากประโยชน์ที่ได้กล่าวมา  มะกรูดจึงเป็นพืชหนึ่งที่มีการพัฒนาใช้ประโยชน์จากส่วนต่าง ๆ ของมะกรูด เช่นเป็นส่วนผสมของแชมพูสระผม  น้ำยาล้างจาน
    6.  เนื้อหา 
          นางถนอมสิน  จูงกลาง ได้เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2539 เจ้าหน้าที่จากสำนักงานเกษตรอำเภอโนนสูง ได้เข้ามาส่งเสริมและถ่ายทอดความรู้การทำน้ำยาล้างจานสำหรับไว้ใช้ในครัวเรือน ต่อมาปี 2548 ได้รับการฝึกอบรมการทำน้ำยาเอนกประสงค์จากน้ำหมักชีวภาพโดยมีหน่วยงานของรัฐเป็นผู้มาให้ความรู้ถึงประโยชน์ของสารที่มีอยู่ในพืชสมุนไพรอีกหลาย ๆชนิด และรวมถึงประโยชน์จากผลมะกรูดที่สามารถนำมาหมักเป็นน้ำหมักชีวภาพใช้ทำน้ำยาล้างจานได้ โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม หลังจากการอบรมแล้วก็ได้นำความรู้มาปรับปรุงส่วนผสมการหมักผลมะกรูด  ต่อมาปัจจุบันก็ได้นำสูตรการหมักผลมะกรูด  มาทำเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาล้างจานให้กับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนศูนย์สาธิตการตลาดบ้านจันดุมสำหรับจำหน่ายให้กับสมาชิกและบุคคลทั่วไป

    น้ำหมักชีวภาพสูตรมะกรูด

    ส่วนประกอบ
                   
     1. มะกรูดแก่                         3              กิโกกรัม
                

    2. น้ำตาลทรายแดง              1              กิโลกรัม
                    
    3. น้ำเปล่า                             10           ลิตร

    วิธีทำ
                   
     1. ใส่ตาลทรายแดง และน้ำลงไปในถังหมักคนให้ละลาย
                  
      2. นำผลมะกรูดล้างให้สะอาด หั่นมะกรูดตามขวางหรือเป็นแว่น
                  
      3. ใส่มะกรูดที่หั่นแล้วลงในถังหมัก ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 3 เดือน จึงนำมาใช้ได้

    ข้อควรระวัง    ควรเก็บไว้ในที่ร่ม อย่าให้ถูกแสงแดดหรือถูกฝน
      
    น้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูด
    ส่วนประกอบ
                    1. N70                                    1              ส่วน
                    2. เกลือ                                  1              กิโลกรัมต่อน้ำ 2.5 ลิตร
                       (นำมาทำน้ำเกลือ โดยต้มน้ำเกลือ 1 ก.ก.ต่อน้ำ 2.5 ลิตร พอเกลือละลายกรองเอาแต่น้ำสะอาด)
                    3. น้ำหมักมะกรูด 1              ลิต ร+ น้ำ 6 ลิตร
    วิธีทำ
                    1. นำ N70 มาใส่ภาชนะ ใช้ไม้พายคนให้ละลายโดยคนไปทางเดียวกัน
                    2. คอยใส่น้ำเกลือทีละน้อย ๆ พร้อมกับคนไปเรื่อย ๆ จนหมด
                    3. เติมน้ำหมักมะกรูดเช่นเดียวกับเติมน้ำเกลือ พร้อมกับคนไปเรื่อยๆ จนหมด แล้วตั้งทิ้งไว้ 1 คืน เพื่อให้ฟองหมดจึงบรรจุใส่ขวด
    ประโยชน์   ใช้ล้างจาน , ใช้ซักผ้า , ใช้ชะล้างอื่น ๆ

    7. ส่วนสรุป : การทำน้ำหมักชีวภาพจากผลมะกรูดก็เป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาไทยที่มีการพัฒนาวิธีการใช้ประโยชน์จากมะกรูดอย่างต่อเนื่อง การทำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุนมาก นอกเหนือจากนำมาใช้ในครัวเรือนแล้วยังสามารถนำมาจำหน่ายในชุมชนทำให้มีรายได้เพิ่มและยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีก  สำหรับเกษตรกรอีกหลาย ๆ คนจะลองหันมาทำน้ำยาล้างจานจากน้ำหมักมะกรูดดูบ้างก็ไม่เป็นการผิดกติกาอย่างใด  ซึ่งถ้าหากสนใจผลิตภัณฑ์จากน้ำหมักมะกรูด







    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำการทำ

    เค้กมะพร้าวอ่อน

    เค้กมะพร้ามอ่อน รู้สึกว่าผลไม้เกือบทุกชนิดเนี๊ยะ เอามาทำขนมเค้กได้ทั้งนั้นเลย อิอิ น่ากินๆๆอีกแล้ว มีหวังอ้วนก็คราวนี้แหละ อยากรู้วิธีทำกันแระยังเอ่ย ไปลองทำกันเลยค่ะ
    • ส่วนผสม 1 แป้งเค้ก 45 กรัม
      ผงฟู 1/4 ช้อนชา
      น้ำตาลทรายป่น 27 กรัม
      เกลือ 1/8 ช้อนชา
    • ส่วนผสม 2 ไข่แดงเบอร์สอง 2 ฟอง
      กะทิ 16.5 กรัม
      น้ำมันพืช 16.5 กรัม
      น้ำมะพร้าว 12 กรัม
    • ส่วนผสม 3 ไข่ขาวเบอร์สอง 2 ฟอง
      ครีมออฟทาร์ทาร์ 1/8 ช้อนชา
      น้ำตาลทรายป่น 27 กรัม

    วิธีทำ
    • ร่อนแป้งเค้ก ผงฟู เกลือ น้ำตาลป่นเข้าด้วยกัน พักไว้
    • ในชามอีกใบผสมไข่แดง น้ำมันพืช กะทิ น้ำมะพร้าว ตีให้พอเข้ากัน เทส่วนผสมที่ 2 ลงในส่วนผสมที่ 1 คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี พักไว้
    • ใน ชามที่สะอาดตีไข่ขาวกะครีมออฟทาร์ทาร์ให้เป็นฟอง จากนั้นค่อยๆทะยอยใส่น้ำตาลป่นลงไป ตีไข่ขาวให้ขึ้นฟูตั้งยอดอ่อน แบ่งส่วนผสมไข่ขาวออกเป็น 3 ส่วน นำไข่ขาวลงไปตะล่อมกะส่วนผสม 1+2 อย่างเบามือทีละส่วน ทำแบบนี้จนหมดไข่ขาว
    • เท ส่วนผสมที่ได้ลงในพิมพ์ขนาด 1 ปอนด์ กระแทกพิมพ์ 1 ครั้ง นำเข้าเตาอบที่อุณหภูมิ 180 C อบด้วยไฟล่าง นาน 15-20 นาที พอสุกแล้วนำออกจากเตา กระแทกพิมพ์แรงๆ 1 ครั้งๆ นำเค้กออกจากพิมพ์ พักไว้ให้เย็น
    ส่วนผสมไส้ครีมมะพร้าวอ่อน
    นม ข้นจืด 62.5 กรัม กะทิ 62.5 กรัม น้ำมะพร้าวอ่อน 75 กรัม น้ำตาล 25 กรัม แป้งกวนไส้ 15 กรัม เกลือ 1/8 ช้อนชา เนยสด 15 กรัม เนื้อมะพร้าวอ่อน 1 ลูก
    นำ นมข้นจืด กะทิ น้ำมะพร้าวอ่อน น้ำตาล แป้งกวนไส้ เกลือ ใส่ชาม คนให้เข้ากัน นำขึ้นตั้งไฟแบบ double-boiling คนส่วนผสมไปในทางเดียวกันตลอดเวลา จนกระทั่งแป้งสุก ส่วนผสมข้น ยกลงจากเตา ใส่เนยกับเนื้อมะพร้าวอ่อนลงไปคนให้เข้ากัน พักไว้ให้ส่วนผสมเย็นแล้วจึงนำไปทาบนเนื้อเค้ก

    จุดสังเกตในธนบัตรรัฐบาล

                       






      
     

                                              


                                          

    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ



    สูตรวิธีการทำน้ำเต้าหู้ เพื่อรับประทาน

    น้ำเต้าหู้ที่ทำจากถั่วเหลือง ที่คนไทยรู้จักกันดีตอนที่เราเป็นเด็ก แม่จะซื้อน้ำเต้าหู้มาใหรับประทานทุกวัน หรือไม่ก็ไปหาซื้อกินเองก่อนไปเรียนหรือก่อนทำงานบ้าง ทุกวันนี้ยังกินอยู่เลยครับ น้ำเต้าหู้ นับว่ามีประโยชน์มากเพราะทำมาจากถั่วเหลือง บวกกับเครื่องปรุงที่ใส่เพิ่มเข้าไปอย่างเช่น ลูกเดือย,งา,เม็ดแมงลัก เป็นต้น คุณค่าของน้ำเต้าหูก็เหมือนกับน้ำนมถั่วเหลืองยิ่งดื่มยิ่งมีประโยชน์ วันนี้เองจึงอยากจะแนะนำการทำน้ำเต้าหู้ เผื่อใครที่สนใจทำเป็นอาชีพ เรามาดูกันเลยว่าขั้นตอนการทำเป็นอย่างไร

    ประโยชน์ของน้ำเต้าหู้จากถั่วเหลือง

    - ช่วยลดและป้องกัน โรคมะเร็งเต้านมได้
    - ช่วยป้องกันและยับยั้งโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก
    - ช่วยป้องกันโรคระบบทางเดินอาหาร
    - ถั่วเหลืองมีสารอะมิโน เอซิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย
    - เป็นแหล่งโปรตีนสำคัญ
    - และยังมีประโยชนือีกมากมาย ดื่มแทนน้ำนมยังได้เลย

    ส่วนประกอบการทำน้ำเต้าหู้

    ส่วนประกอบ ถั่วเหลืองเลาะเปลือกแยกกากและเศษผงออก 1 ถ้วย ต่อ น้ำสะอาด 7 ถ้วย + น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
    - ชำระล้างทำความสะอาดถั่วเหลืองให้สะอาดแล้วแช่น้ำไว้อย่างน้อย 6 ชั่วโมง
    - โม่หรือไม่ก็บดถั่วให้ละเอียด กรองด้วยผ้าสะอาดบางแยกน้ำออก หากมีเครื่องแยกกาก
    ก็ใช้เครื่องแยกกากได้เลย
    - นำขึ้นตั้งไฟ ตอนใกล้ๆเดือดต้องคอย ๆ คนอยู่เสมอเพื่อไม่ให้ไหม้
    - ใส่น้ำตาลทราย คนให้ละลายแล้วปิดไฟ อาจแยกบางส่วนไม่ใส่น้ำตาลทรายเลยก็ได้ แล้วแต่ชอบ
    จุดยิ่งใหญ่ของการทำน้ำเต้าหู้อยู่ที่กระบวนการทำต้องหมั่นคนไม่อย่างนั้นจะมีกลิ่นไหม้
    น้ำนมถั่วเหลืองบริสุทธิ์ที่ไม่ได้เจือปนสิ่งอี่นใดลงไปเพื่อเพิ่มปริมาตรหรือทำให้แลดูข้น
    จะเอร็ดอร่อยและเก็บได้นานกว่า…

    ชาวชุมชนริมควนแนะนำอาหารเช้า
    1.)โรตี 


              แบ่งเป็น หลากหลายชนิด
             ตัวอย่าง โรตีกรอบ
                           โรตีกล้วยเพื่อสุขภาพ หรือ
                              โรตีใส่ไข่เพื่อบำรุงกำลัง หรือ
                                          จะเป็นโรตี น้ำแกงเพื่อความอิ่มอร่อย

    ชาวชุมชนแนะนำอาหารเที่ยง
    1.) ข้าวเปล่า กับ ซุบเนื้อ สักถ้วย
    2.)ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสด ลูกชิ้นเนื้อก็ไม่เลว
    3.)ข้าวราดแกง น้ำพริกผักสดดูเข้าท่าดี

    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำการทำโรตี 

    วิธีการทำ Roti แบบง่าย ๆ

    โรตี เป็นอาชีพที่ทำรายได้งดงามอีกอาชีพหนึ่งที่คนไทยนิยมรับประทานกันมาก จึงทำให้อาชีพนี้สามารถหารายได้อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันมีคนเพียงแค่ไม่กี่กลุ่มเท่านั้นที่ทำอาชีพขายโรตีนี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแขกขายโรตี คนไทยก็มีแต่น้อยมากๆ ดังนั้นอาชีพขายโรตีจึงนับเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่ควรทำที่สุดในช่วงนี้ แล้วจะเริ่มต้นทำกันอย่างไรล่ะ วันนี้ ohomakemoney.คอม ได้นำเอาวิธีการทำโรตี และวิดีโอจากเพื่อน ๆ ที่เขาตั้งใจทำให้เราได้ชมกัน นำมาฝากให้ได้ศึกษากันในวันนี้ เรามาเริ่มกันเลยครับ

    อุปกรณ์/เครื่องใช้

    - ตาชั่งเพื่อชั่งแป้ง
    - ช้อนตวง(โต๊ะ) ถ้วยตวง(โต๊ะ)
    - ที่ตีไข่
    - ตะหลิวเอาไว้ทอด
    - กะทะเอาไวทอดโรตี
    - กะละมังเพื่อผสม
    - ที่กรองแป้งร่อนแป้ง
    - เตาแก๊สหรือไม่ก็เตาถ่าน

    องค์ประกอบ

    - แป้งข้าวสาลีอเนกประสงค์ หนึ่ง กิโล
    - น้ำจืด สอง ถ้วยตวงที่ใสสะอาด
    - มาการีน หนึ่ง ช้อนตวง(โต๊ะ)
    - ไข่ไก่ฟองใหญ่ สอง ฟอง
    - น้ำนมข้นหวาน สอง ช้อนตวง(โต๊ะ)
    - น้ำตาลทราย สอง ช้อนตวง(โต๊ะ)
    - เกลือละเอียด สอง ช้อนตวง(โต๊ะ)

    กรรมวิธีคลุกเคล้าแป้ง

    - ผสมน้ำตาลทราย น้ำสะอาด เกลือละเอียด น้ำนมข้นหวาน พร้อมด้วยไข่ไก่ ลงในภาชนะผสม
    - คนให้ส่วนผสมเข้ากันด้วยที่ตีไข่ไก่
    - ใส่แป้งข้าวสาลีที่ร่อนแล้วลงไป
    - ใช้มือคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน ถ้าแป้งแห้งเพิ่มน้ำสะอาดได้นิดหน่อยจนรู้สึกว่าแป้งนุ่ม
    - นำแป้งมานวดบนโต๊ะและใส่มาการีน
    - แป้งที่นวดได้ที่แล้วจะมีลักษณะเนียน
    - นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ ให้มีขนาดเท่า ๆ กัน ส่วนผสมนี้จะได้ประมาณ 40-60 ก้อน แล้วแต่ขนาดของก้อน
    - ทาด้วยมาการีนหรือน้ำมันพืช
    - ปกคลุมด้วยพลาสติก หมักไว้คร่าวๆราว 15 นาที จึงเอามาตีเป็นแผ่น

    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ

    วิธีการทำลูกชิ้นปลาสูตรการทำลูกชิ้นปลาแบบง่ายๆ

    ลูกชิ้นปลา เป็นอาหารที่เรา ๆ  รู้จักกันเป็นอย่างดีและมีขายทั่ว ๆ  ไป ซึ่งลูกชิ้นปลานี้ก็สามารถนำมาประกอบอาหาร หรือจะทานเป็นของว่างก็ได้ เพราะความอร่อยของลูกชิ้นปลานี่เองคนไทยจึงนิยมนำมาประกอบกับอาหารทั่วไป เช่น ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นปลาทอดกรอบ และอื่นๆ อีกมากมาย และวันนี้พวกเราจึงได้นำสูตรการทำลูกชิ้นปลามาฝากทุกท่าน เพื่อให้ท่านได้ลองนำสูตรกลับไปทำกินกันแบบง่ายๆ หรืออาจเป็นช่องทางแนะนำธุรกิจเพื่อเป็นอาชีพเสริมได้อีกด้วย
    การทำลูกชิ้นปลาอาศัยหลักการง่ายๆ โดยนวดเนื้อปลากับเกลือจะทำให้ผลิตภัณฑ์เหนียวสามารถปั้นได้ สำหรับอุตสาหกรรมลูกชิ้นปลาผู้ผลิตมักจะใช้น้ำผสมให้ลูกชิ้นนิ่มและเพื่มปริมาณของลูกชิ้นด้วย ปริมาณน้ำที่ใช้แล้วแต่ชนิดของปลา ถ้าปลาที่มีน้ำในเนื้อน้อยจะเติมน้ำมากกว่าปลาที่มีน้ำในเนื้อปลามาก บางครั้งผู้ผลิตจะเติมแป้งเล็กน้อยเพื่อให้ลูกชิ้นเนียนขึ้นด้วย

    วัตถุดิบในการทำลูกชิ้นปลา

    ก่อนที่จะเริ่มต้นทำลูกชิ้น ให้ทุกท่านมาดูวัตถุดิบที่ใช้ในการทำลูกชิ้นปลากันก่อนเลยครับว่ามีอะไรบ้าง ปลาที่ให้ความเหนียวและเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำลูกชิ้นได้แก่ปลาอินทรี ปลาดาบลาว ปลาหางเหลือง ปลากราย ปลาสลาด ซึ่งเป็นปลาที่มีราคาค่อนข้างแพง ฉะนั้นในการทำอุตสาหกรรมลูกชิ้นจึงต้องใช้ปลาที่มีราคาถูก เช่น ปลาไหลทะเล ปลาฉลาม ปลาแดงตาโต ปลาน้ำดอกไม้ ปลาข้างเหลือง ปลาทรายแดง ปลาทรายขาว และปลาปากคม

    ส่วนผสมในการทำลูกชิ้นปลา

    1. เนื้อปลา ½ กิโลกรัม
    2. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ ( 3% ของน้ำหนักตัวปลา )
    3. แป้ง 1 ช้อนโต๊ะ ( 2.5 – 5 % ของน้ำหนักตัวปลา )
    4. น้ำแข็งบดละเอียดหรือน้ำเย็นจัด ( ขึ้นอยู่กับความชื้นของเนื้อปลาบด )

    เครื่องไม้เครื่องมือในการทำ

    1. มีดและเขียงชำแหละปลา
    2. เครื่องบดปลา
    3. เครื่องนวดปลา
    4. หม้อต้มลูกชิ้น
    วิธีทำทำลูกชิ้นปลา
    - ขั้นตอนแรกให้ชำแหละปลาเอาแต่เนื้อ
    - ขั้นตอนที่สองให้นำเนื้อปลามาบด ด้วยเครื่องบดประมาณ 2-3 ครั้ง หรือสับให้ละเอียด
    - ต่อจากนั้นนวดเนื้อปลาในเครื่องนวดผสม ประมาณ 5 นาที จึงเติมเกลือ/น้ำเกลือครึ่งหนึ่ง
    - พอเสร็จจากขั้นตอนการนวด ให้ท่านนวดต่อไปอีกประมาณ 5 นาที เติมเกลือส่วนที่เหลือ และนวดต่อไปอีกประมาณ 5-10 นาที ซึ่งระหว่างนวดเติมน้ำแข็งหรือน้ำเย็นจัด เพื่อให้เนื้อปลาเย็นและช่วยให้เหนียวยิ่งขึ้น ถ้าต้องเติมแป้งก็สลับกันกับน้ำจนกระทั้งเข้ากันดี
    - ใช้ช้อนตักเนื้อปลาที่นวดแล้วให้เป็นลูกกลม ๆ ใส่ลงในน้ำอุ่น ๆ ที่อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส นานประมาณ 20 นาที ระหว่างที่แช่ต้องคอยเติมน้ำอุ่นอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกชิ้นแข็งตัวพอสมควร
    - หลังจากนั้นนำลูกชิ้นไปต้มในน้ำเดือด เมื่อลูกชิ้นลอยแล้วจึงตักขึ้นแช่ในน้ำเย็นทันที
    -  และถ้าต้องการถนอมลูกชิ้น ให้แช่ในตู้เย็นเก็บได้นาน 1-2 สัปดาห์ (ไม่ควรแช่แข็ง) หรือแช่น้ำแข็งได้นาน 1 สัปดาห์


    ชาวชุมชนริมควนของแนะนำ

    วิธีทำข้าวเนื้อแดงและสูตรการทำ 

    ข้าวเนื้อแดงเป็นอาหารจานเดียวที่ได้รับความนิยมกันเป็นอย่างมาก ด้วยความอร่อยความสะดวกสบายในการรับประทาน ข้าวเนื้อแดงเป็นเมนูอาหารใครที่คิดจะทำเป็นอาชีพก็ลองทำกินดูก่อนนะ และ คนอยู่อาศัยมากตามชุมชนตลาดเก่า ตลาดตอนกลางคืน จะรู้สึกว่าร่ำรวยกันทุกคน แต่ที่สำคัญเราต้องมีทำเลขายของที่ดีก่อนนะจึงจะขายดีร่ำรวยแน่ ต่อไปเรามาดูการทำข้าวเนื้อแดงกันเลยดีกว่า

    ส่วนผสมข้าวเนื้อแดง

    ข้าวหมูแดง
    ข้าวเนื้อแดง อร่อยที่สุด
    เนื้อส่วนสะโพก  หรือส่วนอื่น ๆ                                                                         1              กิโลกรัม
    ซอสมะเขือเทศกระป๋อง                                                                                       3              ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ๊วขาว                                                                                                                 1              ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ๊วดำ                                                                                                                   1              ช้อนชา
    น้ำตาลทรายแดง                                                                                                  1              ช้อนโต๊ะ
    เครื่องปรุงรส รสหมู ชนิดผง                                                                                 2              ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันงา                                                                                                                  2              ช้อนชา
    น้ำมันพืช                                                                                                                2              ช้อนชา
    สีแดงสำหรับผสมอาหาร                                                                                                       เล็กน้อย

    วิธีทำข้าวเนื้อแดง

    เอาเนื้อตรงสะโพกมาหั่นเป็นชิ้นยาวและหนาพอสมควรสัก 1 นิ้วเศษ ควรเอาความคมของส้อมจิ้มไปทั่วๆ ชิ้นหมู เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมที่เอามาหมักซึมซาบเข้าไปได้สะดวก เอาชิ้นหมูลงใส่ไว้ในกะละมังใบย่อม เพื่อคลุกเคล้าผสมกับเครื่องปรุงต่างๆ
    ใส่เครื่องปรุงและส่วนผสม ลงไปในชิ้นเนื้อ คลุกเคล้าเข้าด้วยกัน โดยมีซอสมะเขือเทศ น้ำมันพืช เหล้าขาวหรือเหล้าโรง น้ำตาลทรายแดง เครื่องปรุงรสรสหมูชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำมันงา สีแดงผสมอาหาร หมักเอาไว้สัก 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้เครื่องปรุงและส่วนผสมแทรกเข้าไปในเนื้อหมูมากๆ จากนั้นเอามาย่างบนเตาถ่านหรือจะเอาไปอบในเตาอบก็ได้เช่นเดียวกันแล้วแต่สะดวก

    เครื่องปรุงน้ำราดเนื้อแดง

    น้ำซุปกระดูก                                                                                                6              ถ้วยตวง
    ผงพะโล้                                                                                                                1              ช้อนชา
    เครื่องปรุงรสรสชนิดผง                                                                              2              ช้อนชา
    ซีอิ๊วขาว                                                                                                                 3              ช้อนโต๊ะ
    ซีอิ๊วดำ                                                                                                                   1              ช้อนโต๊ะ
    ซอสหอยนางรม                                                                                                  5              ช้อนโต๊ะ
    น้ำตาลปิ๊บ                                                                                                             3              ช้อนโต๊ะ
    พริกไทยป่น                                                                                                          1              ช้อนชา
    แป้งข้าวโพด                                                                                                         2              ช้อนโต๊ะ
    ถั่วลิสงคั่วป่น                                                                                                        3              ช้อนโต๊ะ

    วิธีปรุงน้ำราดเนื้อแดง

    เอาหม้อมาใส่น้ำซุปลงไปตามคำแนะนำก่อนอื่น
    ยกตั้งบนเตาไฟ ต้มให้น้ำซุปเดือดแล้วใส่เครื่องปรุงและส่วนผสมลงไปได้ทันที ได้แด่ผงพะโล้ เครื่องปรุงรสรสชนิดผง ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ ซอสหอยนางรม น้ำตาลปิ๊บ พริกไทยป่น ถั่วลิสงคั่วป่นคนให้กัน
    หากดูว่าน้ำน้อยเกินไปก็เติมน้ำซุปลงไปได้อีกพอสมควร ละลายแป้งข้าวโพดกับน้ำซุปเล็กน้อย คนให้เข้ากันแล้วราดลงไปทีละน้อย ให้มีลักษณะเหนียว ข้น กำลังพอเหมาะ
    ข้าวสวย 1 จาน หั่นเนื้อแดงวางลงบนข้าวนี้ ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงได้ดีแล้ว วางต้นหอม 2-3 ต้น แตงกวา พริกดองน้ำส้ม ก็อร่อยแล้ว


    กิจกรรมที่เกิดขึ้นในชุมชนริมควน
    บริษัทโตโยต้าเพชรเกษม หาดใหญ่ เชิญดารามาพบปะกับพี่น้องชาวชุมชนริมควน และชุมชนใกล้เคียง
    ต้องขอขอบคุณที่ให้โอกาส ชาวบ้าน

    กิจกรรมของชาวชุมชนริมควน
    1.)กีฬายอดนิยม เล่นฟุตบอล ในที่ดินว่างเปล่า
    2.)พัฒนาต้นไม้ชายถนน
    3.)ปลูกพืชสวยงาม อาทิ ไม้ดัด บอนไซ
    4.)เก็บขยะในคูระบายน้ำ
    5.)กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลายในคูระบายน้ำ
    6.)เสริมสร้างความสามัคคีในชุมชนเอง และชุมชนรอบข้าง






    ลักษณะทางกายภาพ
    1.)  เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับเทศบาลควนลัง
    2.)  การโจรกรรมมีบ้าง เป็นขโมยมือถือ กระเป๋าเงิน บ้าง งัดร้านค้า ปีนบ้านขโมย
    โน๊ตบุ๊ค ถูกเจ้าของบ้านยิงใส่ก็มี 
    3.)  ยาเสพติด ,น้ำมันเถื่อน ราคาถูก
    4.)  ปัญหา ยุงลาย แมลงสาบ หนู มีมาก
    5.)  ปัญหาคูระบายน้ำอุดตัน
    6.)  ปัญหาฝาคูชำรุด
    7.)  ปัญหาขยะ
    8.)  ปัญหาผู้ป่วย
    9.)  ปัญหาเผาขยะ
    10.) ปัญหาอากาศเป็นพิษ
    11.) ปัญหาถนนเป็นหลุม
    12.) ปัญหาอุบัติเหตุ และ จราจร




    ประชากรในชุมชนริมควน
    1.)ไทยพุทธ      20 เปอร์เซนต์
    2.)ไทยมุสลิม     70 เปอร์เซนต์
    3.)ไทยเชื้อสายจีน  10 เปอร์เซนต์






    กิจกรรมในชุมชน
    1.)  ส่งเสริมทุกศาสนาให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
    2.)  เก็บขยะ ลอกคูระบายน้ำ กำจัดแหล่งเพาะพันธ์ยุงลาย แมลงสาบ หนู โดยชาวบ้านในชุมชนทำกันเอง เทศบาลไม่สนับสนุนใดๆ
    3.)  จัดงานกิจกรรมวันเด็ก เพื่อส่งเสริมความรัก สามัคคี ของอำเภอหาดใหญ่ โดยเชิญเด็กทุกชุมชนเข้าร่วมงานในกิจกรรม เทศบาลไม่สนับสนุนใดๆ